เริ่มกิน energy gel ต้องกินยังไง ❓❓

เมื่อเพิ่มระยะทางในการปั่นหรือการวิ่งให้ไกลขึ้น การเติมพลังงานให้กับร่างกายเพื่อให้ถึงเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญ 

Q : เริ่มกิน energy gel ต้องกินยังไง ❓❓

อย่างที่รู้กันว่า ในการออกกำลังกาย ยิ่งเหนื่อยมาก ความหนักมาก หัวใจเต้นเร็ว ร่างกายจะใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก 

ปัญหา คือ 

1. ร่างกายเก็บพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต (ไกลโคเจน)ที่กล้ามเนื้อและตับได้จำกัด ถ้าไกลโคเจนเหลือต่ำกว่า 30-50% ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการเมื่อยล้า และ performance จะลดลง

2. ขณะที่ออกกำลังกาย ร่างกายต้องใช้พลังงานมาก แต่ไม่สามารถ กิน ให้ เท่ากับ พลังงานที่ใช้ (energy output > energy intake) เนื่องจาก การทำงานของระบบการย่อยและการดูดซึมจะลดลง 

คำถามของ ผู้ที่ออกกำลังกาย จึงมีอยู่ว่า …
” ทำอย่างไรให้ กิน ให้ได้พลังงานเพียงพอ เพื่อที่จะออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง นานขึ้น เมื่อมีข้อจำกัดในการย่อยและดูดซึมอาหาร ??? “

?energy gel คืออะไร ??

?energy gel ไม่ใช่อาหารเสริม เป็นอาหารธรรมดา ที่มี สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก…
เหมือนเราทานข้าว กล้วยหรือขนมปัง เพียงแต่มันถูกย่อยมาแล้ว เราจึงไม่ต้องเคี้ยวและรอเวลาย่อย … energy gel พร้อมที่จะดูดซึมและเปลี่ยนเป็นพลังงานทันที เราทานในปริมาณที่น้อยแต่ให้พลังงานสูงทำให้ไม่เสี่ยงต่ออาการจุกเหมือนเราทานอาหารที่เป็นของแข็ง… จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกายทันที

?energy gel ช่วยอะไร??

? การทานเจลเปรียบเสมือนการเติมน้ำมันให้ร่างกาย ช่วยให้ออกกำลังกายต่อเนื่องได้นานขึ้น โดยที่ไม่เกิดอาการเมื่อยล้า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
(hypoglycemia) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการหน้ามืดและเวียนหัว เวลาที่เราออกกำลังกายต่อเนื่องนานๆ

?ทานกล้วยหรือแตงโม ต่างกับทานเจล อย่างไร ?? 

?กล้วยและแตงโมใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนานกว่าเจล และต้องทานในปริมาณมากกว่าถึงได้พลังงานเท่ากับเจล

?เลือก energy gel แบบไหนดี ??

? เจลแต่ละยี่ห้อไม่ได้ต่างกันแค่รสชาติและความยากง่ายในการทาน 
แต่ยังแตกต่างที่ส่วนประกอบภายในเจล ระดับความเข้มข้น ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมของร่างกาย

เจลที่ดีควรมีความเข้มข้นที่ใกล้เคียงกับความเข้มข้นเลือด จะทำให้ดูดซึมได้เร็ว และมีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต หลายชนิด ที่มีสัดส่วนเหมาะสม ถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ได้หลายช่องทาง ทำให้ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตถูกดูดซึมและเปลี่ยนไปใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น #deverenergygel

?ร่างกายควรเติมคาร์โบไฮเดรตตอนไหนและปริมาณเท่าไหร่

บางคนบอกทุก 10 กิโลบ้าง 14 กิโลบ้าง… บางคนบอกตอนที่เริ่มหมดแรง

? ถ้าเรารู้ว่าออกกำลังกายต่อเนื่องเกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เราควรเติมพลังงานระหว่างออกกำลังกาย เพื่อให้ออกกำลังกายต่อเนื่องได้ โดยประสิทธิภาพของการออกกำลังกายยังเหมือนเดิม …

Tips

?เริ่มทานตั้งแต่เนิ่นๆ หลังจากผ่านไปประมาณ 45 นาที (เพราะระบบการย่อยและดูดซึมยังทำงานได้ดี) และทานทุกๆ 45 – 60 นาทีระหว่างการแข่งขัน จนกว่าจะจบการแข่งขัน

ถ้าเริ่มทานตอนใกล้หมดแรง การดูดซึมจะทำได้ไม่ดี เพราะเลือดไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อหมด

? ควรเริ่มใช้เจลจากตอนฝึกซ้อม แล้วดูว่าร่างกายเราตอบสนองอย่างไรโดย ลองจากปริมาณที่ต่ำที่สุดก่อน 

” 1 ซอง ทุกๆ 1 ชั่วโมง ” หรือทุกๆ 10-12 กม.ในบุคคลทั่วไป 

สักระยะนึงเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว แล้วค่อยๆเพิ่ม เป็น 

“1 ซองทุกๆ 45 นาที” หรือทุกๆ 7-8 กม. 

?สำหรับคนที่รูปร่างใหญ่ หรือ หมดแรงง่ายควรเพิ่มปริมาณหรือความถี่ในการทาน

?ควรจำลองสถานการณ์การแข่งในระหว่างการฝึกซ้อม แล้วฝึกทานเจล เพื่อให้รู้ timing ในการทานเจลที่เหมาะสมและได้ประสิทธิผลมากที่สุด

?ควรฝึกให้ระบบย่อยคุ้นเคย กับการรับประทานในสภาวะที่ร่างกายเหนื่อยมากๆ เช่น Tempo run, ช่วงท้ายๆของการฝึกซ้อมหรือ long run , ระหว่าง interval sets เพื่อให้ระบบย่อยปรับตัวรับปริมาณพลังงานจากอาหารได้มากขึ้น

? ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้ทาน ในกรณีที่เราออกกำลังกายต่อเนื่อง

♦1-2 ชม.(วิ่งระยะฮาล์ฟ) 

➡ 30 กรัมต่อชั่วโมง 

(Dever 40 ml 1 ซองหรือ Dever 100 ml 1/2 ซอง)

♦2-3 ชม. (วิ่งระยะฮาล์ฟ หรือ ระยะฟูลกลุ่ม elite, การฝึกซ้อมกีฬาโดยทั่วๆไป

➡60 กรัมต่อชั่วโมง

(Dever 40 ml 2 ซองหรือ Dever 100 ml 2/3 ซอง) โดยแบ่งรับประทานทุกครึ่ง ชม.

♦3 ชั่วโมงขึ้นไป (ระยะฟูลมาราธอน และ ironman)

➡ 90 กรัมต่อชั่วโมง
(Dever 100 ml 1 ซอง)

Guideline ด้านบนเป็นคำแนะนำคร่าวๆ นักกีฬาควรปรับปริมาณตามความเหมาะสมของตนเอง

พบกับสาระด้านโภชนาการทางการกีฬาจากผู้เชี่ยวชาญของ DEVER ENERGY GEL ได้ที่

Line id : @deverenergy
Facebook : dever energy gel
IG: deverenergy

#deverenergy
#deverenergygel
#deverenergychews
#thairun
#devernutrition

มีคนถามแอดว่าทาน DEVER ช่วงเทศกาลกิน เจ ได้มั้ย …

มีคนถามแอดว่าทาน DEVER ช่วงเทศกาลกิน เจ ได้มั้ย …

มั่นใจได้เลยว่า  ผลิตภัณฑ์ของ DEVER ทุกชนิด ผู้ที่ทานเจ สามารถทานได้ นะะะ

⛤ ส่วนผสมของเราสกัดมาจากพืช ไม่มีส่วนประกอบใดที่มาจากสัตว์ จ้า ทานได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวล ⛤

นอกจากนี้แล้ว แอดยังมี

“เทคนิคการรับประทานอาหารช่วงการกินเจ”

เพื่อให้การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง การปั่นหรือการว่ายน้ำมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม อีกด้วยนะะ 💪💪💪

1. แน่นอนว่า ช่วงเจสำหรับหลายๆคน ก็จะมีเมนูผักเพิ่มขึ้น แต่ลองเช็คให้ดีนะว่า ก่อนการออกกำลังกาย ไม่ควรทาน ในปริมาณมากเกินไป เพราะผักเป็นไฟเบอร์ จะทำให้เราท้องอืด ระหว่างการออกกำลังกาย ได้

2. หลีกเลี่ยงอาหาร มันๆ เช่น เต้าหู้ทอด เผือกทอด และอาหารทอดหรือ ผัดน้ำมันเยอะๆ ก่อนออกกำลังกาย เพราะ ไขมันใช้เวลาย่อยนาน และจะไปรบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อ ขณะที่เราออกกำลังกาย

เลือกการปรุงอาหารแบบนึ่ง ต้มหรือตุ๋นแทน ดีกว่า

3. รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ ผู้ที่ออกกำลังกาย ร่างกายต้องการสารอาหารประเภทโปรตีนมากกว่า บุคคลธรรมดา เพื่อซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งาน

เต้าหู้ ถั่ว ธัญพืช โปรตีนทดแทน และ นมถั่วเหลือง ก็ถือเป็นแหล่งโปรตีน ที่สำคัญ สำหรับคนที่ทานเจ

4. การรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ก่อนการออกกำลังกาย มักเป็นอุปสรรคสำคัญ เพราะอาหารประเภทแป้ง มักมา พร้อมไขมัน เลือก อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต สูง ไม่มีไขมันก่อนการออกกำลังกาย เช่น DEVER energy gel หรือ ผลไม้ชนิดต่างๆ

ทีมโภชนาการทางการกีฬา

DEVER ENERGY GEL

#dever

#deverenergy

#deverenergygel

#กินเจ

#เทศกาลกินเจ

ก่อนวิ่งหรือปั่นจะทานอะไรดีนะ ???

บางทีเราก็ขี้เกียจตื่น กินอาหารก็ไม่ลง แล้วถ้ากินจะ

กินอะไรดี กลัวกินเยอะเดี๋ยวก็จุก … 

ทานน้อยก็หมดแรงกลางทาง … 

ตะคริวมาอีก … 

➡ เวลาเราวิ่งร่างกายใช้พลังงานจากไหน ❓❓

?ร่างกายเราใช้พลังงานในการออกกำลังกายจาก 2 แหล่งหลักๆ คือ คาร์โบไฮเดรตและไขมัน

?คาร์โบไฮเดรต – เก็บสะสมในรูปของไกลโคลเจน (glycongen) ที่ กล้ามเนื้อเป็นหลัก รองลงมาคือ ในตับ แต่มันเก็บได้อย่างจำกัดหน่ะสิ

(ถ้าเก็บเต็มถัง ก็จะวิ่งได้ต่อเนื่องประมาณ 1.5 – 2 ชม.ก่อนที่แรงจะเริ่มหมด ทั้งนี้ขึ้นกับ ความหนักหรือความเร็วในการวิ่ง)

เลยเกิดปัญหาว่า พอวิ่งไปนานๆ ไกลโคลเจนก็จะหมด เหมือนรถยนต์น้ำมันจะหมด

?ไขมัน – ให้พลังงานเยอะกว่าคาร์โบไฮเดรต แต่ปัญหาคือมัน ให้มันพลังงานช้า ถ้าเราวิ่งเร็วมันจะให้พลังงานเราไม่ทัน

ซึ่งแน่นอนว่าเวลาเราลงสนาม อยากทำเวลาได้ดี อยากได้ new pb 
เราก็ต้องพยายามวิ่งให้เร็วขึ้น เหนื่อยขึ้น heart rate ยิ่งขึ้นสูง ร่างกายจะใช้ พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

➡ ถ้าพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตใกล้หมดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

? ร่างกายก็จะลดความเร็วลง (pace เพิ่มขึ้น) เพื่อปรับมาใช้พลังงานจากไขมันแทน … แต่ถ้าเรายังฝืนไปต่อด้วยความเร็วเดิม ขาเราจะเริ่มหนักขึ้น จนตะคริวตามมา 

โจทย์ของเราจึงอยู่ที่ว่า

➡ “ทำยังไงให้มีพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต เพียงพอต่อการวิ่งระยะนั้นๆ ??? “

? แน่นอนว่าการเติมพลังงานให้เต็มก่อนแข่ง เป็นวิธีการที่ดีที่สุด 

1. เพราะก่อนวิ่ง เลือดยังไม่ถูกนำไปเลี้ยงกล้ามเนื้อเยอะ ทำให้ระบบการย่อยและดูดซึมทำงานได้ดี เราจึงควรตุนพลังงานให้ได้มากที่สุด

2. ระหว่างวิ่งการดูดซึมจะทำงานได้ไม่ดี เพราะเลือดส่วนใหญ่ไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อ เลือดมาเลี้ยงที่ระบบย่อยอาหารน้อย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ link ด้านล่าง)

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1444549129007090&id=338763396252341

⛤ หมายความว่า ถ้าเราใช้พลังงานชั่วโมงละ 400 แคลอรี่ เราไม่สามารถเติมกลับ เท่ากับที่ใช้ได้ 

3. การเริ่มวิ่งหรือออกกำลังกายตอนเช้า เป็นช่วงเวลา ที่ร่างกายเรา อดอาหารมาทั้งคืน ทำให้พลังงานสะสมในร่างกายลดต่ำลง

หากเราไม่กินข้าวเช้าแล้วไปวิ่ง ประสิทธิภาพในการวิ่งจะไม่ดี 

ถ้าวิ่งมินิ อาจรอดได้เพราะใช้เวลาแปปเดียว แต่หลังวิ่งเสร็จ จะเพลียและโหยมาก

ถ้าฮาล์ฟหล่ะ โอกาสรอดน้อยมาก ถ้าไม่ใช่นักวิ่งแนวหน้า ที่วิ่งแปปเดียวถึง … ส่วนฟูลมาราธอนยังไงก็ต้องทาน

➡ ทานอะไรดีหล่ะ ไม่ให้จุกแต่มีแรง

? หลักการ คือ เมื่อเราเริ่มวิ่ง อาหารที่เหลืออยู่ในกระเพาะอาหารต้องน้อยที่สุด (ถูกดูดซึมและนำไปเก็บไว้ใช้ระหว่างวิ่ง) เพื่อไม่ให้จุก และ ไม่รบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อที่เราใช้ในการวิ่ง (เลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ต้องถูกแบ่งมาใช้ย่อย) 

? สารอาหารที่ย่อยและดูดซึมเร็วที่สุด คือ คาร์โบไฮเดรต รองลงมาคือ โปรตีน และ ไขมัน ตามลำดับ …

? รูปแบบอาหารที่เป็นของเหลวจะดูดซึมเร็วกว่าของแข็ง

?อาหารที่มีปริมาณน้อยจะดูดซึมเร็วกว่า

ถ้ามีเวลาก่อนวิ่งนานๆ (3-4 ชม.) จะทานอาหารเป็นมื้อๆ ได้สบายมาก ระวังอาหารที่มีไขมันเยอะๆ เช่น อาหารทอด หรือ ผัดน้ำมันเยอะๆ เพราะจะใช้เวลาย่อยนาน ทำให้อืดท้อง

แต่ถ้ามีเวลาน้อยลง (1-2 ชม.) พยายามลดไขมันให้น้อยที่สุด มีโปรตีนได้บ้าง และ เน้นไปที่คาร์โบไฮเดรต เช่น แซนด์วิชไส้ทูน่า หรือ ไข่ต้ม ซาลาเปา … อาจทานข้าวได้ แต่ ต้องลดสัดส่วนจากมื้อหลักลง

หากเรามีเวลาน้อยกว่า 1 ชม.ก่อนวิ่งควรทานพวกคาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว ถ้าเป็นของเหลวด้วยยิ่งดี ให้มีโปรตีนกับไขมันน้อยที่สุด เช่น ขนมปังทาแยม ผลไม้ น้ำผลไม้ หรือ DEVER 100 ml 

DEVER energy gel 100 mL 

เจลให้พลังงานแบรนด์แรกของเมืองไทย ?????ถูกวิจัยและพัฒนา?โดยความร่วมมือกันของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและนักกีฬามืออาชีพ

• เนื้อสัมผัสเป็นแบบเยลลี่ ให้พลังงาน 330 แคลอรี่

• ให้พลังงานเท่ากับข้าว 2 ถ้วยเล็ก ??หรือกล้วยหอมประมาณ 3 ลูก ???

• ให้พลังงานได้นาน 1.5 – 2 ชั่วโมง

• ดูดซึมได้ง่ายและเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่กล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว (ภายใน 5 – 10 นาที) 

• รับประทานแทนมื้ออาหารหลักก่อนออกกำลังกายเพียง 15 – 30 นาที เช่น ตอนเช้าในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือ ตอนเย็นหลังเลิกเรียนหรือเลิกงาน … ทานระหว่างออกกำลังกายในกรณีที่ออกกำลังกายต่อเนื่องยาวนาน … หรือหลังออกกำลังกายทันที เพื่อช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย

• ช่วยให้ร่างกายออกแรงได้มากขึ้นและนานขึ้น

• ลดการเกิดตะคริว 

ถ้าได้ลอง DEVER แล้วจะรู้ว่า เจลรสชาติอร่อยๆ ทานง่าย ให้ผลจริง ก็มีอยู่
เพราะ DEVER ดีต่อใจ และ ร่างกาย ด้วย

#dever
#deverenergy
#deverenergygel
#พาวเวอร์เจล
#powergel
#marathon
line id: @deverenergy
www.deverenergy.net

DEVER tips 🎉🎉🎉 : เราจะต้องทานอะไร ตอนไหนดีที่จะทำให้มีแรงลงแข่งขัน และไม่ทำให้จุก

นักกีฬาที่ต้องแข่งขันวันนึง หลายๆรอบ หลายๆแมตซ์ และด้วยเวลาการแข่งขันที่ไม่แน่นอน ทำให้กังวลว่า

เราจะต้องทานอะไร ตอนไหนดีที่จะทำให้มีแรงลงแข่งขัน และไม่ทำให้จุก

DEVER tips 🎉🎉🎉

1. ทานอาหารเช้าให้เพียงพอ

มื้อเช้าเป็น มื้อแรกที่สำคัญที่สุด ในการแข่งขันกีฬาหลายๆแมตซ์ ในวันเดียว เพราะ เป็นมื้อที่นักกีฬา สามารถรับประทานได้มาก เพื่อตุนพลังงานไว้ใช้สำหรับ ช่วงระหว่างวันที่มีการแข่งขันต่อเนื่อง

2 . วางแผนการรับประทานอาหารให้สอดคล้องกับตารางการแข่งขัน

นักกีฬาควรทราบหรือประมาณเวลาที่จะลงทำการแข่งขัน ในแต่ละรอบ

และเลือกอาหารที่จะรับประทานให้เหมาะสมกับเวลาที่เหลือก่อนลงทำการแข่งขัน

♦ 3-4 ชั่วโมงแนะนำให้รับประทานอาหารเหมือนที่เราทานเป็นมื้อหลักทั่วไป เช่น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู(ไม่ติดมัน ไม่ใส่กระเทียมเจียว) หรือ ข้าวกะเพราไก่ (เลือกเป็นไก่ขิ้นไม่ติดมัน ใช้น้ำมันน้อยๆ อาจเปลี่ยนจากไข่ดาวเป็นไข่ต้ม)

หลักการคือ ให้มีคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งประมาณ 3 ใน 4 ของจานโปรตีน (เนื้อสัตว์ ไข่ ลูกชิ้น) ประมาณ 1ใน4 ของจานและพยายามจำกัดไขมันให้น้อยที่สุดเพราะใช้เวลาย่อยนาน

♦ 1-2 ชั่วโมงแนะนำให้ลดปริมาณอาหารลงเน้นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก เช่น กล้วย ขนมปังทาแยม น้ำผลไม้ เยลลี่ หรือแซนด์วิชทูน่าหรือแฮม (ใส่แฮม 1 แผ่นหรือทูน่าประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ)

♦ น้อยกว่า 1 ชั่วโมง แนะนำให้รับประทานสารอาหารที่เป็นของเหลวประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ถูกดูดซึมและให้พลังงานได้อย่างรวดเร็วและพลังงานนั้นสามารถอยู่ได้นานเป็นชั่วโมง เช่น DEVER energy gel

ตัวอย่างอาหารที่มีสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก

– ข้าว ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ พาสต้า สปาเกตตี้ วุ้นเส้น ขนมปัง

– ผลไม้ต่างๆ

– น้ำหวาน น้ำอัดลม

– ซีเรียล energy gel energy bar

♦ ภายหลังการแข่งขัน การฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็วก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลงสนามครั้งต่อไป นักกีฬาควรรับประทาน ทั้งสารอาหารประเภทโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ทันที  ตัวอย่างเช่น สมูทตี้น้ำผลไม้ปั่นกับนม เวย์โปรตีน หรือนม 0% กับ DEVER energy gel

3. เตรียมอาหารและของว่างไปให้พร้อม

เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้วว่าต้องทานอะไร เมื่อไหร่ ก็อย่าลืมเตรียมอาหารและของว่างไปให้พร้อม เพราะ ร้านขายอาหารตามที่สถานที่

แข่งขัน อาจไม่มีอาหารที่พวกเราต้องการ และปริมาณอาหารอาจมีไม่เพียงพอ

เพียงแค่นี้ก็จะทำให้เรา เล่นได้อย่างเต็มความสามารถ และ ไม่มีล้าหรือหมดแรง

ติดตามสาระความรู้ด้านโภชนาการทางการกีฬา (sports nutrition) จาก ผู้เชี่ยวชาญของ DEVER ครั้งต่อไปได้ที่

Fanpage : DEVER ENERGY GEL

Official Line : @deverenergy

https://line.me/R/ti/p/%40deverenergy

#dever

#deverenergy

#deverenergygel

#energygel

#taekwondo

#swimming

#judo

#เทควันโด

#icehockey

พาวเวอร์เจล ใครทานได้บ้าง ???

หลายวันนี้เราคงคุ้นเคยกับคำว่า#พาวเวอร์เจล ที่ถูกนำไปใช้ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยซีลและอาสาสมัครตามจุดต่างๆ รวมถึงยังเป็นอาหารมื้อแรกของน้องๆ ที่ติดอยู่ในถ้ำ

https://www.springnews.co.th/view/300786?sp=

นอกจากน้องๆแล้วเราสามารถนำไปใช้ในบุคคลกลุ่มไหนได้อีกบ้าง

1. กลุ่มผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องความอยากอาหารลดลง ทำให้ทานอาหารได้น้อยส่งผลให้ พลังงานที่ร่างกายได้รับไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เกิดความเสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ (malnutrition)  Dever energy gel 100 ml ที่น้องๆกินเป็นอาหารมื้อแรกจึงสามารถนำมาใช้ได้ในกลุ่มนี้เป็นอย่างดีเพราะทานเพียง 1 ซองให้พลังงานเท่ากับข้าว 2 ถ้วยเล็กๆ 

2. กลุ่มเด็กที่กำลังเจริญเติบโตหรือเด็กที่เป็นนักกีฬา

พวกเด็กๆ ต้องการพลังงานต่อวันค่อนข้างมาก เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ยิ่งถ้าเด็กเล่นกีฬาด้วย พลังงานที่ต้องการจะสูงมาก

แต่เด็กบางคนจะทานได้น้อยทำให้พลังงานไม่เหลือมากพอ ที่จะเกิด positive energy balance เด็กจึงโตช้า DEVER energy gel สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ โดยให้ทานระหว่างมื้ออาหาร ก่อนและระหว่างการออกกำลังกาย

3. ผู้ป่วยที่ทานอาหารได้น้อย 

4. ผู้ที่ออกกำลังกายหรือ ผู้ที่ใช้งานหนัก

รูปด้านล่างคือเจลที่ถ่ายจากในถ้ำ

Cr. ภาพจาก สำนักข่าวไทยและหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

#dever

#deverenergy

#energygel

#ถ้ำหลวง

#หมูป่า

#พาวเวอร์เจล

#อาหารมื้อแรก

#13ชีวิตรอดแล้ว

#ผู้ว่าเชียงราย

พาวเวอร์เจล ที่เค้าเอาเข้าไปในถ้ำนี่มันคืออะไรกัน ???

พาวเวอร์เจล หรือ energy gel คือ เจลให้พลังงาน เป็นสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตนี่แหละ เพียงแค่ มันถูกเปลี่ยนรูปจากของแข็งมาเป็นของเหลว  ลองนึกถึงการที่เราต้องทานข้าวเป็นจาน หรือ กล้วยหอมเป็นลูก แต่ย่อส่วนให้เล็กลง และให้พลังงานเท่ากัน ทำให้พกพาสะดวก สามารถนำติดตัวไปได้แบบสบายๆ

ข้อดี ของมัน คือทานง่าย ดูดซึมและให้พลังงานอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลาทานนาน และไม่ทำให้จุก

ซึ่งพาวเวอร์เจล เป็น อาหารที่คุ้นเคยอยู่แล้ว

สำหรับนักกีฬาที่ต้องใช้พลังงานต่อเนื่องหลายๆชั่วโมง เช่น นักวิ่งมาราธอน นักปั่นจักรยาน หรือนักไตรกีฬา

DEVER ENERGY GEL เป็นชื่อทางการค้าของ energy gel เป็นเจลให้พลังงานแบรนด์ไทยแบรนด์แรกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ทานง่าย ไม่หนืด และดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว

DEVER ENERGY GEL ใช้ประโยชน์ที่ถ้ำหลวงได้ยังไง ???

เจ้าหน้าที่ เช่น หน่วยซีล  สามารถพกพาเข้าไปได้สะดวก พกตอนดำน้ำไปได้ ทำให้สามารถปฏิบัติงานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องดำกลับมาที่จุดพักเพื่อทานอาหาร

หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครที่อยู่บนเขา พวกที่ทำการสำรวจปล่องบนถ้ำ สามารถพกพาไปได้สะดวก เพราะบางจุดต้องปีนเชือกหรือขึ้นเขาที่ชัน ทำให้ไม่สามารถพกอะไรไปได้เยอะ

#dever

#deverenergy

#energygel

#ถ้ำหลวง

#13 ชีวิต

#ผู้ว่าเชียงราย

#หมูป่า

เริ่มกินเจลต้องกินยังไง ❓❓

อย่างที่เรารู้กันว่า ในการออกกำลังกาย ยิ่งเหนื่อยมาก ความหนักมาก หัวใจเต้นเร็ว ร่างกายจะใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก 

ปัญหา คือ 

1. ร่างกายเราเก็บพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต (ไกลโคเจน)ที่กล้ามเนื้อและตับได้จำกัด ถ้าไกลโคเจนเหลือต่ำกว่า 30-50% ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการเมื่อยล้า และ performance จะลดลง

2. ขณะที่เราออกกำลังกาย ร่างกายต้องใช้พลังงานมาก แต่ไม่สามารถ กิน ให้ เท่ากับ พลังงานที่เราใช้ (energy output > energy intake) เนื่องจาก การทำงานของระบบการย่อยและการดูดซึมจะลดลง 

คำถามของ ผู้ที่ออกกำลังกาย จึงมีอยู่ว่า …
” ทำอย่างไรให้ กิน ให้ได้พลังงานเพียงพอ เพื่อที่จะออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง นานขึ้น เมื่อเรามีข้อจำกัดในการย่อยและดูดซึมอาหาร ??? “

?energy gel คืออะไร ??

?energy gel ไม่ใช่อาหารเสริม เป็นอาหารธรรมดา ที่มี สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก…
เหมือนเราทานข้าว กล้วยหรือขนมปัง เพียงแต่มันถูกย่อยมาแล้ว เราจึงไม่ต้องเคี้ยวและรอเวลาย่อย … energy gel พร้อมที่จะดูดซึมและเปลี่ยนเป็นพลังงานทันที เราทานในปริมาณที่น้อยแต่ให้พลังงานสูงทำให้ไม่เสี่ยงต่ออาการจุกเหมือนเราทานอาหารที่เป็นของแข็ง… จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกายทันที

?energy gel ช่วยอะไร??

? การทานเจลเปรียบเสมือนการเติมน้ำมันให้ร่างกาย ช่วยให้ออกกำลังกายต่อเนื่องได้นานขึ้น โดยที่ไม่เกิดอาการเมื่อยล้า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
(hypoglycemia) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการหน้ามืดและเวียนหัว เวลาที่เราออกกำลังกายต่อเนื่องนานๆ

?ทานกล้วยหรือแตงโม ต่างกับทานเจล อย่างไร ?? 

?กล้วยและแตงโมใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนานกว่าเจล และต้องทานในปริมาณมากกว่าถึงได้พลังงานเท่ากับเจล

?เลือก energy gel แบบไหนดี ??

? เจลแต่ละยี่ห้อไม่ได้ต่างกันแค่รสชาติและความยากง่ายในการทาน 
แต่ยังแตกต่างที่ส่วนประกอบภายในเจล ระดับความเข้มข้น ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมของร่างกาย

เจลที่ดีควรมีความเข้มข้นที่ใกล้เคียงกับความเข้มข้นเลือด จะทำให้ดูดซึมได้เร็ว และมีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต หลายชนิด ที่มีสัดส่วนเหมาะสม ถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ได้หลายช่องทาง ทำให้ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตถูกดูดซึมและเปลี่ยนไปใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น #deverenergygel

?ร่างกายเราควรเติมคาร์โบไฮเดรตตอนไหนและปริมาณเท่าไหร่

บางคนบอกทุก 10 กิโลบ้าง 14 กิโลบ้าง… บางคนบอกตอนที่เริ่มหมดแรง

? ถ้าเรารู้ว่าออกกำลังกายต่อเนื่องเกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เราควรเติมพลังงานระหว่างออกกำลังกาย เพื่อให้ออกกำลังกายต่อเนื่องได้ โดยประสิทธิภาพของการออกกำลังกายยังเหมือนเดิม …

Tips

?เริ่มทานตั้งแต่เนิ่นๆ หลังจากผ่านไปประมาณ 45 นาที (เพราะระบบการย่อยและดูดซึมยังทำงานได้ดี) และทานทุกๆ 45 – 60 นาทีระหว่างการแข่งขัน จนกว่าจะจบการแข่งขัน

ถ้าเริ่มทานตอนใกล้หมดแรง การดูดซึมจะทำได้ไม่ดี เพราะเลือดไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อหมด

? ควรเริ่มใช้เจลจากตอนฝึกซ้อม แล้วดูว่าร่างกายเราตอบสนองอย่างไรโดย ลองจากปริมาณที่ต่ำที่สุดก่อน 

” 1 ซอง ทุกๆ 1 ชั่วโมง ” หรือทุกๆ 10-12 กม.ในบุคคลทั่วไป 

สักระยะนึงเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว แล้วค่อยๆเพิ่ม เป็น 

“1 ซองทุกๆ 45 นาที” หรือทุกๆ 7-8 กม. 

?สำหรับคนที่รูปร่างใหญ่ หรือ หมดแรงง่ายควรเพิ่มปริมาณหรือความถี่ในการทาน

?ควรจำลองสถานการณ์การแข่งในระหว่างการฝึกซ้อม แล้วฝึกทานเจล เพื่อให้รู้ timing ในการทานเจลที่เหมาะสมและได้ประสิทธิผลมากที่สุด

?ควรฝึกให้ระบบย่อยคุ้นเคย กับการรับประทานในสภาวะที่ร่างกายเหนื่อยมากๆ เช่น Tempo run, ช่วงท้ายๆของการฝึกซ้อมหรือ long run , ระหว่าง interval sets เพื่อให้ระบบย่อยปรับตัวรับปริมาณพลังงานจากอาหารได้มากขึ้น

? ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้ทาน ในกรณีที่เราออกกำลังกายต่อเนื่อง

♦1-2 ชม.(วิ่งระยะฮาล์ฟ) 

➡ 30 กรัมต่อชั่วโมง 

(Dever 40 ml 1 ซองหรือ Dever 100 ml 1/2 ซอง)

♦2-3 ชม. (วิ่งระยะฮาล์ฟ หรือ ระยะฟูลกลุ่ม elite, การฝึกซ้อมกีฬาโดยทั่วๆไป

➡60 กรัมต่อชั่วโมง

(Dever 40 ml 2 ซองหรือ Dever 100 ml 2/3 ซอง) โดยแบ่งรับประทานทุกครึ่ง ชม.

♦3 ชั่วโมงขึ้นไป (ระยะฟูลมาราธอน และ ironman)

➡ 90 กรัมต่อชั่วโมง
(Dever 100 ml 1 ซอง)

Guideline ด้านบนเป็นคำแนะนำคร่าวๆ นักกีฬาควรปรับปริมาณตามความเหมาะสมของตนเอง

พบกับสาระด้านโภชนาการจากโดยเชี่ยวชาญจาก DEVER ได้ที่

Line id : @deverenergy
Facebook : dever energy gel
IG: deverenergy

#deverenergy
#deverenergygel
#deverenergychews
#thairun
#devernutrition

ก่อนวิ่งต้องกินมั้ยย ❓❓

ขี้เกียจตื่น กินก็ไม่ลง แล้วถ้ากินจะ

กินอะไรดี กลัวกินเยอะเดี๋ยวก็จุก … 

ทานน้อยก็หมดแรงกลางทาง … 

ตะคริวมาอีก … 

➡ เวลาเราวิ่งร่างกายใช้พลังงานจากไหน ❓❓

?ร่างกายเราใช้พลังงานในการออกกำลังกายจาก 2 แหล่งหลักๆ คือ คาร์โบไฮเดรตและไขมัน

?คาร์โบไฮเดรต – เก็บสะสมในรูปของไกลโคลเจน (glycongen) ที่ กล้ามเนื้อเป็นหลัก รองลงมาคือ ในตับ แต่มันเก็บได้อย่างจำกัดหน่ะสิ

(ถ้าเก็บเต็มถัง ก็จะวิ่งได้ต่อเนื่องประมาณ 1.5 – 2 ชม.ก่อนที่แรงจะเริ่มหมด ทั้งนี้ขึ้นกับ ความหนักหรือความเร็วในการวิ่ง)

เลยเกิดปัญหาว่า พอวิ่งไปนานๆ ไกลโคลเจนก็จะหมด เหมือนรถยนต์น้ำมันจะหมด

?ไขมัน – ให้พลังงานเยอะกว่าคาร์โบไฮเดรต แต่ปัญหาคือมัน ให้มันพลังงานช้า ถ้าเราวิ่งเร็วมันจะให้พลังงานเราไม่ทัน

ซึ่งแน่นอนว่าเวลาเราลงสนาม อยากทำเวลาได้ดี อยากได้ new pb 
เราก็ต้องพยายามวิ่งให้เร็วขึ้น เหนื่อยขึ้น heart rate ยิ่งขึ้นสูง ร่างกายจะใช้ พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

➡ ถ้าพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตใกล้หมดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

? ร่างกายก็จะลดความเร็วลง (pace เพิ่มขึ้น) เพื่อปรับมาใช้พลังงานจากไขมันแทน … แต่ถ้าเรายังฝืนไปต่อด้วยความเร็วเดิม ขาเราจะเริ่มหนักขึ้น จนตะคริวตามมา 

โจทย์ของเราจึงอยู่ที่ว่า

➡ “ทำยังไงให้มีพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต เพียงพอต่อการวิ่งระยะนั้นๆ ??? “

? แน่นอนว่าการเติมพลังงานให้เต็มก่อนแข่ง เป็นวิธีการที่ดีที่สุด 

1. เพราะก่อนวิ่ง เลือดยังไม่ถูกนำไปเลี้ยงกล้ามเนื้อเยอะ ทำให้ระบบการย่อยและดูดซึมทำงานได้ดี เราจึงควรตุนพลังงานให้ได้มากที่สุด

2. ระหว่างวิ่งการดูดซึมจะทำงานได้ไม่ดี เพราะเลือดส่วนใหญ่ไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อ เลือดมาเลี้ยงที่ระบบย่อยอาหารน้อย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ link ด้านล่าง)

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1444549129007090&id=338763396252341

⛤ หมายความว่า ถ้าเราใช้พลังงานชั่วโมงละ 400 แคลอรี่ เราไม่สามารถเติมกลับ เท่ากับที่ใช้ได้ 

3. การเริ่มวิ่งหรือออกกำลังกายตอนเช้า เป็นช่วงเวลา ที่ร่างกายเรา อดอาหารมาทั้งคืน ทำให้พลังงานสะสมในร่างกายลดต่ำลง

หากเราไม่กินข้าวเช้าแล้วไปวิ่ง ประสิทธิภาพในการวิ่งจะไม่ดี 

ถ้าวิ่งมินิ อาจรอดได้เพราะใช้เวลาแปปเดียว แต่หลังวิ่งเสร็จ จะเพลียและโหยมาก

ถ้าฮาล์ฟหล่ะ โอกาสรอดน้อยมาก ถ้าไม่ใช่นักวิ่งแนวหน้า ที่วิ่งแปปเดียวถึง … ส่วนฟูลมาราธอนยังไงก็ต้องทาน

➡ ทานอะไรดีหล่ะ ไม่ให้จุกแต่มีแรง

? หลักการ คือ เมื่อเราเริ่มวิ่ง อาหารที่เหลืออยู่ในกระเพาะอาหารต้องน้อยที่สุด (ถูกดูดซึมและนำไปเก็บไว้ใช้ระหว่างวิ่ง) เพื่อไม่ให้จุก และ ไม่รบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อที่เราใช้ในการวิ่ง (เลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ต้องถูกแบ่งมาใช้ย่อย) 

? สารอาหารที่ย่อยและดูดซึมเร็วที่สุด คือ คาร์โบไฮเดรต รองลงมาคือ โปรตีน และ ไขมัน ตามลำดับ …

? รูปแบบอาหารที่เป็นของเหลวจะดูดซึมเร็วกว่าของแข็ง

? อาหารที่มีปริมาณน้อยจะดูดซึมเร็วกว่า

ถ้ามีเวลาก่อนวิ่งนานๆ (3-4 ชม.) จะทานอาหารเป็นมื้อๆ ได้สบายมาก ระวังอาหารที่มีไขมันเยอะๆ เช่น อาหารทอด หรือ ผัดน้ำมันเยอะๆ เพราะจะใช้เวลาย่อยนาน ทำให้อืดท้อง

แต่ถ้ามีเวลาน้อยลง (1-2 ชม.) พยายามลดไขมันให้น้อยที่สุด มีโปรตีนได้บ้าง และ เน้นไปที่คาร์โบไฮเดรต เช่น แซนด์วิชไส้ทูน่า หรือ ไข่ต้ม ซาลาเปา … อาจทานข้าวได้ แต่ ต้องลดสัดส่วนจากมื้อหลักลง

หากเรามีเวลาน้อยกว่า 1 ชม.ก่อนวิ่งควรทานพวกคาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว ถ้าเป็นของเหลวด้วยยิ่งดี ให้มีโปรตีนกับไขมันน้อยที่สุด เช่น ขนมปังทาแยม ผลไม้ น้ำผลไม้ หรือ DEVER 100 ml 

DEVER energy gel 100 mL 

เจลให้พลังงานแบรนด์แรกของเมืองไทย ?????ที่ถูกวิจัยและพัฒนา?โดยความร่วมมือกันของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและนักกีฬามืออาชีพ

• เนื้อสัมผัสเป็นแบบเยลลี่ ให้พลังงาน 330 แคลอรี่

• ให้พลังงานเท่ากับข้าว 2 ถ้วยเล็ก ??หรือกล้วยหอมประมาณ 3 ลูก ???

• ให้พลังงานได้นาน 1.5 – 2 ชั่วโมง

• ดูดซึมได้ง่ายและเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่กล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว (ภายใน 5 – 10 นาที) 

• รับประทานแทนมื้ออาหารหลักก่อนออกกำลังกายเพียง 15 – 30 นาที เช่น ตอนเช้าในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือ ตอนเย็นหลังเลิกเรียนหรือเลิกงาน … ทานระหว่างออกกำลังกายในกรณีที่ออกกำลังกายต่อเนื่องยาวนาน … หรือหลังออกกำลังกายทันที เพื่อช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย

• ช่วยให้ร่างกายออกแรงได้มากขึ้นและนานขึ้น

• ลดการเกิดตะคริว 

ถ้าได้ลอง DEVER แล้วจะรู้ว่า เจลรสชาติอร่อยๆ ทานง่าย ให้ผลจริง ก็มีอยู่
เพราะ DEVER ดีต่อใจ และ ร่างกาย ด้วย

#deverenergy
#deverenergygel
line id: @deverenergy อย่าลืมใส่ @ ก่อนนะจ้ะ
www.deverenergy.net

หลายคนบอกว่า เจลทานยาก … ทำไมหล่ะ ❓❓

หลายคนบอกว่า เจลทานยาก …

ทานแล้วติดคอ … ต้องรีบดื่มน้ำตาม …

บางอันรสชาติแย่มาก …

บางคนถึงกับอ้วกออกมา …

ทำไมหล่ะ ❓❓

➡  ขณะออกกำลังกาย เลือดส่วนใหญ่จะถูกส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่เราใช้งาน เพื่อนำสารอาหารและออกซิเจนไปให้กล้ามเนื้อ รวมถึงนำของเสียและ กรดแลคติก (lactic acid) ออกจากกล้ามเนื้อ … ดังนั้นเลือดที่มาเลี้ยงระบบย่อยอาหารจะลดลง กระบวนการนี้เรียกว่า (vascular shunt mechanism) ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี ยิ่งเหนื่อยมาก ระบบย่อยอาหารแทบถูก shut down

หากเราทานอาหารที่ผ่านระบบย่อยช้า เช่น เจลที่มีความหนืดมากๆหรือมีลักษณะเนื้อสัมผัสที่ไหลช้า หรืออาหารที่เป็นของแข็ง อาหารจะถูกพักที่กระเพาะอาหารเป็นเวลานานขึ้น (gasrtric emptying time นานขึ้น) เกิดการย่อยได้ช้าและไม่สมบูรณ์

📌  energy gel ที่มีความหนืดและความเข้มข้นสูง ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร??

➡  ส่งผลให้เกิดอาการจุก พะอืดพะอม คลื่นไส้ หรือบางคนอาจอาเจียนออกมา

 … มากไปกว่านั้น energy gel ที่มีความหนืดและความเข้มข้นสูง จะส่งผลให้น้ำภายในเซลล์ของร่างกายถูกดึงมาเพื่อช่วยเจือจางให้ความเข้มข้นของเจลลดลงใกล้เคียงกับความเข้มข้นของเลือด ทำให้ร่างกายขาดน้ำ (หากดื่มน้ำตามไม่เพียงพอ) และยังมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปั่นป่วนท้อง หรือ ท้องเสียจาก energy gel ที่มีความหนืดและความเข้มข้นสูง (osmotic diarrhea) กลางทางได้

 📌 energy gel ที่มีความหนืดและความเข้มข้นสูงส่งผลต่อการออกกำลังกายของเราอย่างไร

➡  ประสิทธิภาพในการออกกำลัง (performance) จะลดลง เพราะแทนที่เลือดจะทำหน้าที่ในการส่ง ออกซิเจน, ลำเลียงสารอาหารไปยังและนำของเสียออกจากกล้ามเนื้อ ได้อย่างรวดเร็ว กลับต้องถูกแบ่งส่วนนึงมาใช้ในระบบย่อยอาหาร

📌 DEVER energy gel แก้ไขปัญหาข้างต้นได้อย่างไร

➡ DEVER energy gel เป็นเจลให้พลังงานแบรนด์แรกของไทย

 🇹🇭🥇🇹🇭 ที่ถูกวิจัยและพัฒนา🔬 ขึ้นจากการร่วมมือกันของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์ทางการกีฬาและนักกีฬามืออาชีพ

• เนื้อเจลคล้ายไซรัป มีความหนืดต่ำ

และความเข้มข้นระดับที่เหมาะสม ทำให้ผ่านระบบย่อยอาหารได้อย่างรวดเร็ว ดูดซึมได้ง่ายและเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่กล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว ไม่รบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้ออกกำลังกาย

• กลืนง่าย ไม่เหนียวติดคอ รสชาติดี

*** ถ้าได้ลอง DEVER แล้วจะรู้ว่า เจลรสชาติอร่อยๆ ทานง่าย ไม่ติดคอ ให้ผลจริง ก็มีอยู่

เพราะ DEVER ดีต่อใจ และ ร่างกาย ด้วย ***

ติดตามสาระความรู้ด้านโภชนาการทางการกีฬา (sports nutrition) จาก ผู้เชี่ยวชาญของ DEVER ครั้งต่อไปได้ที่

Fanpage : DEVER ENERGY GEL

Official Line : @deverenergy

https://line.me/R/ti/p/%40deverenergy

อย่าลืมใส่ แอด นะจ้ะ

#deverenergy

#deverenergygel

#devergel

#sportsnutrition

#thairun

www.deverenergygel.com

เด็กที่ออกกำลังกายหนักจะโตช้าจริงไหม?

#เด็กที่ออกกำลังกายหนักจะโตช้าจริงไหม?

เรื่องของความสูงเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ เรามักได้ยินคำถามที่ว่า “ลูก ผม/ดิฉัน จะสูงได้อีกไหม หรือจะสูงถึง เท่านี่/เท่านั้นไหม?

จริงๆแล้วการออกกำลังกาย มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เด็กเจริญเติบ ช่วยในการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต รวมทั้งการยืดของกระดูก

ในทางกลับกัน การออกกำลังกายหนัก โดยเฉพาะในเด็กที่มีการฝึกซ้อมกีฬาเป็นประจำทุกวัน วันละหลายชั่วโมง การใช้พลังงานมากในแต่ละวันจะทำให้เด็กมีแนวโน้มในการเจริญเติบโตได้ช้าลง สาเหตุหลักมาจากการได้รับพลังงานจากอาหารไม่เพียงพอกับพลังงานที่เด็กต้องใช้ ทั้งในการออกกำลังกาย และพลังงานที่เด็กต้องใช้เพื่อเจริญเติบโต นอกจากนั้นการฝึกซ้อมอาจทำให้เกิดความเครียดและทำให้ร่างกายหลังฮอร์โมน cortisol ซึ่งส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตช้าลงเช่นกัน

การจัดตารางการฝึกซ้อมให้เหมาะสมกับช่วงอายุจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง รวมถึงการได้รับพลังงานจากอาหารให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยสามารถทำได้ดังนี้

1. รับประทานอาหารก่อน ระหว่าง และหลังการฝึกซ้อม เช่น

ก่อน – ขนมปังทาแยม เจลให้พลังงาน ผลไม้ แครกเกอร์

ระหว่าง – เจลให้พลังงาน

หลัง – นมไขมันต่ำ

2. รับประทานอาหารมื้อย่อยๆหลายๆมื้อ จะเป็นการช่วยเพิ่มพลังงาน เช่น ช่วงพักที่โรงเรียน ตอนช่วงสายและบ่าย  เช่น แซนด์วิช นม ซีเรียล หรือ Dever 100ml.

3. ดื่มนมให้ได้ในปริมาณ 1 ลิตร – 1.5 ลิตร โดยพยายามดื่มทีละน้อย และดื่มบ่อยๆ เพื่อให้ แคลเซียมดูดซึมได้ดีขึ้น

4. ทานสารอาหารประเภทโปรตีน เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ และเต้าหู้ ให้ครบทุกมื้อ

แค่เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เด็กได้รับพลังงานเพียงพอกับการใช้ในแต่ละวัน และช่วยป้องกันปัญหาการเจริญเติบโตช้าในกลุ่มเด็กที่มีการออกกำลังกายอีกด้วย

#deverenergygel

#devernutrition

#deversportnutrition