นอกจากรสชาติ และความยากง่าย
ในการทานที่แตกต่างกันของ energy gel แต่ละชนิดแล้ว
ส่วนประกอบที่แตกต่างกัน ใน energy gel แต่ละชนิด ส่งผลให้ประสิทธิภาพ ไม่เหมือนกันอีกด้วย
— ส่วนประกอบหลักหรือ active ingredient ของ energy gel ที่ให้พลังงานได้อย่างรวดเร็วและทำให้วิ่งได้นานขึ้น
คือ สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต —
— คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในการวิ่ง —
— ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตแต่ละชนิดที่เป็นส่วนผสมในเจลให้พลังงาน ส่งผลทำให้เจลถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายช้าหรือเร็วไม่เท่ากัน
—
— คาร์โบไฮเดรต ชนิดไหนดูดซึมเร็วหรือช้า จะใช้ค่า GI
(Glycaemix index) เป็นตัวบอก GI สูงจะดูดซึมเร็ว GI ต่ำจะดูดซึมช้า
โดยมีค่าอ้างอิง คือ กลูโคส GI = 100 —
🔺️ คาร์โบไฮเดรตชนิดต่างๆที่พบใน energy
gel
🔹️ Maltodextrin หรือเรียกอีกอย่างว่า กลูโคสที่ต่อเป็นสายสั้นๆ
เป็นคาร์โบไฮเดรต ที่เป็นพระเอกของ energy gel เพราะจะมีความหวานน้อย ดูดซึมได้เร็วมากและให้พลังงานต่อเนื่องได้นาน
ค่า GI = 105 – 126
🔹️ กลูโคส (glucose) หรือถ้าเราอ่านหลังฉลากจะเรียก เด็กซ์โตรส
(dextrose) เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของ คาร์โบไฮเดรต ดูดซึมได้เร็ว
🔹️ น้ำตาลทราย หรือน้ำตาล (Sucrose)
เป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ ร่างกายต้องย่อยก่อน 1 รอบเพื่อให้ได้ น้ำตาลกลูโคสและฟรุกโตส
จึงจะดูดซึม
ยิ่งมีน้ำตาลทรายใน energy gel มากจะทำให้ความเข้มข้นสูงและการดูดซึมช้าลง
📌 ดูปริมาณน้ำตาล ได้จากไหน ???
1. ดูที่ฉลากโภชนาการ ปริมาณคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด ด้านล่างจะบอกปริมาณน้ำตาล
2. ดูที่ส่วนประกอบสำคัญ ถ้ามีน้ำตาลทรายอยู่อันดับแรกๆ แสดงว่าเป็นส่วนประกอบหลักของ
energy gel จึงไม่ควรนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ในการเติมพลังงาน
🔹️ ฟรุกโตส (fructose) หรือน้ำตาลจากผลไม้ เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว
เหมือนกลูโคส แต่การดูดซึมจะช้ากว่า
GI = 19
📌 แล้วทำไมต้องใส่ fructose ใน energy gel ???
— การใส่ fructose ทำให้คาร์โบไฮเดรต ดูดซึมและนำไปใช้ในระหว่างวิ่งได้เยอะขึ้น
ส่งผลให้ร่างกายดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อมาใช้น้อยลง —
— Maltodextrin หรือ glucose จะดูดซึมที่ลำไส้เล็ก คนละช่องทาง (channel)
กับ
fructose —
— Maltodextrin ดูดซึมผ่านช่องทางที่ชื่อ GLUT2
Fructose ดูดซึมผ่าน GLUT5 —
— พอดูดซึม คนละช่องทาง จึงไม่ต้องแย่งกันดูดซึม ทำให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตรวมถูกดูดซึมได้เยอะขึ้น
—
energy gel บางชนิดใช้สารให้ความหวานชนิดอื่น เช่น
🔹️ Sugar alcohol พวกที่ลงท้ายด้วย -ol เช่น Sorbital, Malitol,
Erythritol พวกนี้จะให้พลังงานต่ำมาก
มีแค่รสหวาน
🔹️ Artificial sweetener เช่น Acesulfame – K, Sucralose
ให้ความหวาน
แต่ไม่ให้พลังงาน
ทั้ง Sugar alcohol และ artificial sweetener จึงไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง
📌 ทานเจลแล้วต้องดื่มน้ำตามมั้ย ???
เหตุผลในการดื่มน้ำหลังการทาน energy gel มี 2 ข้อ
1. เจลบางยี่ห้อมีความหนืด ทำให้กลืนลำบาก
ถ้าใช้ DEVER energy gel ตัดความกังวล ข้อนี้ไปได้เลย เพราะความหนืดน้อยมาก
ทานง่าย สามารถกลืนได้ทันที ไม่จำเป็นต้องทานใกล้จุดให้น้ำ
2. ช่วยให้เจลดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น
การดื่มน้ำตามทำให้ ความเข้มข้นของ energy gel มีค่าที่ใกล้เคียง กับความเข้มข้นของเลือด
เราเรียกว่าทำให้เป็น”isotonic”
energy gel จึงสามารถดูดซึมได้ดีและเร็วขึ้น
📌 ต้องดื่มน้ำตาม เท่าไหร่ถึงจะพอ ???
ต้องดื่มน้ำเพื่อให้ค่าความเข้มข้นของเจล ลงมาใกล้ค่าความเข้มข้นของเลือด
1. ต้องรู้ว่าส่วนประกอบของเจล มีอะไรบ้างและปริมาณเท่าไหร่ เพราะคาร์โบไฮเดรตแต่ละชนิด
ต้องใช้น้ำเพื่อเจือจางไม่เท่ากัน
Maltodextrin 1 กรัมต้องดื่มน้ำตามประมาณ 3.3 มิลลิลิตร เพื่อทำให้เป็น
isotonic
Fructose และ น้ำตาลทราย 1 กรัม
ต้องดื่มน้ำตาม 19 มิลลิลิตรเพื่อทำให้เป็น isotonic
Sodium 1 กรัมต้องดื่มน้ำตาม 290 มิลลิลิตรเพื่อทำให้เป็น isotonic
จะเห็นว่าถ้ามีปริมาณน้ำตาล หรือ ฟรุกโตส มากจะทำให้ความเข้มข้นสูง ดูดซึมได้ช้า และ ทำให้ต้องดื่มน้ำตามมาก
DEVER ENERGY GEL 40 ML
มี คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 30 กรัม
Maltodextrin 50% = 26.3 กรัม
ต้องดื่มน้ำตาม
26.3× 3.3 = 87 มิลลิลิตร
Fructose 5% = 2.6 กรัม
Sucrose 2% = 1.1 กรัม
ต้องดื่มน้ำตาม
(2.6 + 1.1) ×19 = 70 มิลลิลิตร
มี Sodium = 55 มิลลิกรัม
ต้องดื่มน้ำตาม
(55/1000)×290= 16 มิลลิลิตร
* เวลาอ่านส่วนประกอบด้านหลังฉลาก มักจะรวมกันไม่ได้ 100% เพราะผู้ผลิตส่วนมากจะไม่ได้ใส่
เปอร์เซนต์ของน้ำ ลงไปด้วย
ดังนั้น DEVER ENERGY 40 ML ต้องดื่มน้ำตาม 87+70+16 = 173 มิลลิลิตร
หรือ ประมาณ 1 อึก จะช่วยให้ดูดซึมดีที่สุด
DEVER ENERGY GEL เจลให้พลังงานแบรนด์แรกของไทย คิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ทานง่าย ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว 🏆
#devernutrition
#dever
#deverenergy
#deverenergygel
#running
#marathon